ยินดีต้อนรับเข้าสู่บทความ “สิ่ง” ที่ปรากฎขึ้นใน “Junkyouju Takatsuki Akira no Suisatsu” ก่อนหน้านี้ได้แนะนำ “ผีเหรียญ” และ “ตุ๊กตาหุ่นฟางและขุนนางเฮอัน” ไป ครั้งนี้เราจะมาในเรื่องของ “การตีความ และ ยักษ์”
■ ONI (ยักษ์)
สิ่งที่เราคุ้นเคยมาตั้งแต่สมัยเด็ก ไม่ว่าจะเป็นโมโมทาโร่หรือการสาดถั่วในช่วง “เซ็ตซึบุน” ต่างก็เป็นสิ่งที่ปรากฎอยู่ใน “Wamyo Ruijusho” ที่ได้ถูกรวบรวมขึ้นมาในสมัยเฮอันตอนกลาง เป็นสิ่งเก่าแก่และถือเป็นทฤษฎีนิรุกติศาสตร์ ทฤษฎีที่ว่า “ยักษ์ (O-ni)” จะไม่ปรากฎกายแต่จะหลบซ่อนอยู่ในสิ่งอื่น จึงเรียกว่า “ซ่อน (O-nu), และสิ่งอื่นนั้นจะเปลี่ยนมาเป็น “ยักษ์ (O-ni)
ในสมัยก่อน สำหรับญี่ปุ่นแล้วนั้น ว่ากันว่าวิญญาณจะสิงสถิตอยู่ในสิ่งของ・ปรากฎการณ์ทุกสิ่งอย่างในโลกธรรมชาติ ซึ่งก็หมายความว่าปรากฎการณ์ที่เกินภูมิปัญญาของมนุษย์ อย่างเช่น ฟ้าร้องเป็นปรากฎการณ์ที่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทำให้เกิดขึ้น, การสวดอธิษฐานด้วยการสักการะเพื่อไม่ให้ความหายนะ, โชคร้ายย่างกรายเข้ามาสู่ตัว…และด้วยสภาพที่มีการหลั่งไหลของเรื่องราวเช่นนี้จึงได้มีการลองศึกษาเรื่อง “ยักษ์ตาเดียว” ที่ปรากฎตัวขึ้นใน “Izumo no kuni fudoki”
ใน “Izumo no kuni fudoki” ได้มีการบันทึกไว้ว่ามียักษ์ตาเดียวกินคนที่สถานที่ตีหลอมเหล็ก แต่ทว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้หรือเปล่า? จากงานหลอมเหล็ก เป็นงานที่จะต้องจุดไฟ การทำงานจะต้องทำงานไปด้วยและเห็นไฟที่ลุกโหมนั่นด้วย ทำให้แสงจ้านั้นเข้าทำร้ายดวงตาของคนทำงานและสูญเสียการมองเห็น… ไฟของทาทาระช่วงชิงดวงตาหนึ่งข้าง→ยักษ์ที่ช่วงชิงดวงตา (สภาพการณ์ที่ก้าวข้ามภูมิปัญญามนุษย์)→นับจากนั้นก็ก่อให้เกิด “ยักษ์ตาเดียวกินคน”
ยักษ์อาจจะกำเนิดขึ้นเพื่ออธิบายปรากฎการณ์
『แต่ไหนแต่ไรแล้วที่คำว่า “โอ-นิ (ยักษ์)” เป็นคำที่เปลี่ยนมาจาก “โอ-นุ (ซ่อน)” ใช้บ่งบอกสิ่งที่โดยเนื้อแท้แล้วมองไม่เห็น, สิ่งที่ไม่ได้มีอยู่ในโลกนี้, เหล่าผู้คน ณ ช่วงเวลานั้นต่างตีความอธิบายว่าเหตุการณ์ภัยพิบัติ หรือสิ่งที่น่าพิศวงสงสัยนั้นเป็นฝีมือการกระทำของยักษ์….. ดังนั้นยักษ์จึงได้ถือกำเนิดขึ้นมาเพื่ออธิบายปรากฎการณ์』
ที่มา junkyoju-takatsuki.com/