รีวิวละคร BL เกาหลีเรื่อง “SEMANTIC ERROR” หรือชื่อไทยคือ “ตรรกะรัก รหัสเพี้ยน” บอกก่อนว่าเรื่องนี้เห็นผ่านหน้า Timeline Twitter บ่อยมาก จนวันนี้ตัดสินใจดู ซึ่งสามารถดูซับไทยถูกลิขสิทธิ์ได้ที่ GagaOOlala application โดยจะต้องสมัครเป็น VIP ก่อน ราคาอยู่ประมาณ 230+ บาท (บัตรเครดิตของกระทรวงถูกตัดเงินที่ 199.00 TWD)
ก่อนอื่นเรามากันที่คำว่า “SEMANTIC ERROR” กันก่อน ส่วนตัวลองไปค้นมาแล้ว พบกับความหมายที่แปลว่า “ความผิดพลาดทางตรรกะ” ว่าด้วยเรื่องของคอมพิวเตอร์ที่เราเขียน code ถูกต้องแต่อาจจะได้คำตอบที่ไม่ถูกต้องเนื่องจากตรรกะที่คิดและเขียนออกมาเป็น code นั้นผิดพลาด
ซึ่งก็สอดคล้องกับละครเรื่องนี้ ที่ตัวละครเอกชื่อ “ชูซังอู (รับบทโดย Jaechan (DONGKIZ))” เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ที่เรียนดี มันสมองเป็นเริส แต่ท่าทางเหมือนหุ่นยนต์ คิดอะไรทุกสิ่งอย่างเป็นตรรกะ มีเวลาการทำกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน วันหนึ่งเขานำเสนองาน และตัดชื่อของคนที่ไม่ช่วยงานออกทั้งหมด ซึ่งในบรรดาสมาชิกในกลุ่มนั้นมีรุ่นพี่อย่าง “จางแจยอง (รับบทโดย Park Seo Ham (อดีตสมาชิกวง KNK))” ที่เป็นรุ่นพี่เรียนการออกแบบผู้ที่กำลังจะเรียนจบอยู่รอมร่อ
และเนื่องจากการตัดชื่อออกของชูซังอู ทำให้จางแจยองต้องเรียนจบช้า และจางแจยองได้ตามล่าหาชูซังอูเพื่อแก้แค้น แต่ตามเท่าไหร่ก็หาตัวไม่เจอ จนเพื่อนที่ทำงานบอกว่ามีคนกำลังต้องการดีไซน์เนอร์ไปช่วยออกแบบเกม พอเพื่อนเอ่ยชื่อ “ชูซังอู” เท่านั้นแหละ จางแจยองตอบตกลงทันที และนั่นทำให้จางแจยองเจอตัวชูซังอูในที่สุด
ด้วยความที่ต้องทำเกม ทั้งคู่ก็เลยได้ร่วมงานกัน แต่จางแจยองก็ตามรังควานไม่เลิก อะไรที่ชูซังอูเกลียด จางแจยองทำหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสวมชุดสีแดงทั้งตัว, กดกาแฟที่ชูซังอูชอบจนหมดตู้ ทางฝั่งของชูซังอูที่ตอนแรกพยายามเลี่ยง หลัง ๆ ก็เริ่มโต้กลับ และจากการโต้กันไปโต้กันมานี่เองที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหนุ่มรุ่นน้องที่ทำตัวเป็นโรบอท มีตรรกะกับทุกอย่างกับรุ่นพี่ผู้ใช้ชีวิตสนุกสนานได้เปลี่ยนไป…
■ ความคิดเห็นส่วนตัว
บอกก่อนว่าเอนเอียงแน่นอน เรื่องสนุกมาก 4 ตอนแรกเป็นช่วงทะเลาะกัน ไม่ถูกกัน และกำลังจะเกิดการพลิกผัน ส่วน 4 ตอนท้ายก็คือตายราบเป็นหน้ากลอง หวานมากไม่ไหว TwT เนื้อเรื่องกระชับมาก นักแสดงแสดงดีมาก ไม่รู้สึกว่าแข็งทื่อหรืออย่างใดเลยสักนิด คำพูดของตัวละครที่อยู่รอบข้างตัวเองทั้งสองนั้นต่างก็มี “message” ในตัวของมันเอง ไม่ว่าจะเป็นฉากที่เพื่อนพระเอกถามว่า แกล้งชูซังอูแล้วชูซังอูเปลี่ยนไป ตัวจางแจยองจะได้อะไรขึ้นมา “จากที่ชั่วอยู่แล้ว ตอนนี้อยากเป็นไอ้ชั่วตัวพ่องี้เหรอ?” นั่นทำให้จางแจยองต้องกลับมาคิดใหม่
หรือแม้แต่ตัวชูซังอูเอง ที่ตอนแรกพยายามผลักไสจางแจยองมาตลอด แล้วสุดท้ายพอเขาหายไปจริง ๆ กลับรู้สึกกระวนกระวายใจ ก็เลยปรึกษารุ่นน้อง โดยเปรียบเทียบราวกับว่าปัญหากับจางแจยองเป็น Bug/ปัญหา ของระบบคอมพิวเตอร์ ที่พอพบ Bug/ปัญหา ก็ทำการแก้ไข (ขับไสไล่ส่งจนเขาไปจริงๆ) แล้วทำไมระบบ (ความรู้สึกในตัวชูซังอู) ยังไม่กลับมาเสถียรเหมือนเดิม
รุ่นน้องก็เลยบอกว่า งั้นถ้าเอาต้นเหตุของปัญหาออกไปแล้ว ระบบยังไม่กลับมาเสถียร ก็ลองกู้ข้อมูลกลับมาใหม่ (ลองทบทวนความสัมพันธ์ เริ่มต้นกันใหม่) ← รุ่นน้องไม่รู้ว่าชูซังอูหมายถึงอะไร เลยเข้าใจว่ากำลังพูดถึงระบบคอมพิวเตอร์
จากคำพูดของรุ่นน้องทำให้ชูซังอูคิดได้ เพราะถ้าเป็นระบบคอมพิวเตอร์แล้วล่ะก็ พอกู้ทุกอย่างคืน ก็ลองทวนดู code อีกรอบเผื่อมีอะไรหลุดรอดสายตา แต่เขาอาจจะลืมไปว่านี่คือจิตใจคนไม่ใช่ระบบคอมฯ ที่จะแข็งทื่อ ท้ายที่สุดก็มีอะไรสะดุดอยู่บ้าง แต่ก็เริ่มปรับกันไปมาเพื่อให้สามารถไปกันต่อได้
■ เนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้เมนหนักไปที่เรื่องวิศวกรรมคอมพิวเตอร์หรือเรื่องการดีไซน์มากนัก แต่ก็ทำให้เราได้รู้อยู่บ้างว่าการที่จะสร้างเกมขึ้นมา 1 เกมนั้นแน่นอนล่ะว่าจะต้องมีคนเขียน code และจะต้องมีคนดีไซน์ตัวละครหรืออะไรตั้งต่างเกี่ยวกับเกม อาจจะมีศัพท์เฉพาะอยู่บ้าง แต่ไม่เยอะ เรา ๆ สามารถเข้าใจกันได้ อย่างเช่นคำว่า Bug เป็นต้น
■ กลิ่นอายของเรื่องนี้จะเป็นชีวิตนักศึกษา ซึ่งก็ทำออกมาได้ดีจนเราที่เป็นคนดูยังโหยหาชีวิตนักศึกษาอีกครั้ง ชอบที่มีทั้งเรื่องการปั่นจักรยานตร์ไปมหาวิทยาลัย การเข้าชั้นเรียน การเลือกที่นั่ง ชีวิตหอ การทำงานพิเศษ การปิดประกาศหาคนมาร่วมโปรเจค ชีวิตที่นั่งดริ้งค์กับเพื่อน ฯลฯ
■ การดำเนินเรื่องแน่นอนล่ะว่าดำเนินเรื่องเร็ว จำนวนตอนทั้งหมด 8 ตอน ตอนละ 20-30 นาทีโดยประมาณ สามารถดูจบได้ภายใน 1 วัน ซึ่งเราเชื่อเป็นอย่างมากว่ายังไงก็ดูจบรวดเดียวแน่นอน เพราะสนุกมากจริง ๆ และคงเป็นการยากที่จะตัดใจไม่กดดูตอนต่อไปโดยพลัน แต่ถึงตอนจะน้อย ระยะเวลาจะสั้น ก็สามารถทำออกมาได้เป็นอย่างดี ไม่ได้รู้สึกติดขัดแต่อย่างใด
■ Kiss scene
มากันที่ฉากจูบหน่อยที่เราอยากจะกล่าวถึง ละครเรื่องนี้นำเสนอฉากจูบได้อ่อนโยนมาก ภาพเอย อะไรเอยทำให้เราเคลิ้มกันไปหมด ไม่ว่าจะเป็นฉากจูบตอนแรกที่จางแจยองทำงานไม่ไหวก็เลยไปนอน แล้วฝากชูซังอูปลุกด้วย แต่ชูซังอูเมื่อเข้าใกล้ ก็ถามอีกฝ่ายว่ายังหลับอยู่ไหม พอไม่มีอะไรตอบรับ ก็จูบอีกฝ่าย… (ทางเราเดาว่าจางแจยองตื่นอยู่)
เพราะไม่อย่างนั้น ฉากที่อยู่กันในร้านอาหารจางแจยองคงไม่เอ่ยว่าชูซังอูขโมยจูบไปสองรอบ
ส่วนฉากจูบครั้งที่ 2 นั้นเกิดขึ้นที่ร้านอาหาร ซึ่งพบว่าความจริงแล้วเจ้าของร้านปิดร้านไปเที่ยว สรุปก็อยู่ในร้านกันสองคน แล้วชูซังอูเมา ก่อนที่จะเล่นเกมสลับอายุ โดยที่ชูซังอูจะกลายเป็นพี่ จากนั้นก็พูดทุกสิ่งอย่างเกี่ยวกับจางแจยอง ชูซังอูบอกว่าตอนแรกกะจะทนอยู่แล้วเชียว ทำให้จางแจยองถามต่อว่าทนอะไร สุดท้ายชูซังอูเลยตอบว่า “ถ้านายไม่หล่อฉันคงไม่คุยด้วย” (เริ่มเอ๊ะ!แล้วหนึ่ง แสดงว่าตอนนี้คือ “คุยด้วย”? แต่ “คุย” แบบไหน?) แล้วจางแจยองก็เลยไล่ถามต่อไปเรื่อย จนกระทั่งมาจบลงที่ประโยคที่ว่า “บอกล่วงหน้านะ หนึ่งนาทีจากนี้ฉันจะจูบนาย ถ้าจะหนีก็หนีไปตอนนี้เลย” ← เราว่ามันพิเศษขึ้นไปอีกตรงที่บอกเลยว่าหลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้น ยังมีโอกาสหนีนะ แต่เรื่องพลิกเป็น…
คนดูอย่างเราก็ค้างอยู่นะ เงิบเลยล่ะ คาดไม่ถึง
*ที่จางแจยองพูดว่า “บอกล่วงหน้านะ” น่าจะเป็นเพราะก่อนหน้านั้นที่กลับมาคุยกันอีกครั้ง ชูซังอูบอกว่า ระมัดระวังเรื่องสัมผัสตัวโดยไม่บอกล่วงหน้าด้วย*
ส่วนฉากจูบอีกฉากที่เราประทับใจมากก็คือฉากจูบสุดท้าย ซึ่งเราคิดว่าน่าจะผ่านไปนานแล้วกว่าจะไปถึงช่วงเวลานั้น เพราะจะเห็นว่าทรงผมของจางแจยองเปลี่ยนและชูซังอูดูโตขึ้น ฉากนี้ก็หวานดี จางแจยองเจอโฟลเดอร์ที่เป็นภาพตัวเองอยู่ในคอมของชูซังอู แล้วชูซังอูจะแย่งคืน แย่งไปแย่งมา จางแจยองคว้าเองชูซังอูแล้วก็… นั่นแหละ….
บอกเลยว่าละมุน อ่อนโยนมาก ฮ่า~ ใจเหลวไม่ไหวจริง ๆ
■ ฉากที่เราน้ำตาไหล
ตอนแรกไม่คิดว่าตัวเองจะเสียน้ำตา แต่พอมาฉากที่ตัวละครทะเลาะกัน จากนั้นก็ห่างกันสักพักเพื่อคิดทบทวนข้อเสนอของอีกฝ่าย แต่ระหว่างที่ห่างกันนั้นตัวละครแต่ละตัวก็อยู่ในสภาพนี้
คือดูไปแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างงง ๆ
อีกฉากก็คือ ฉากที่ชูซังอูตัดสินใจแล้วว่าจะเอ่ยปากอนุมัติคำขอที่จะทดลองคบกัน 2 อาทิตย์ของจางแจยอง แต่ตอนนั้นจางแจยองจะได้ไปต่างประเทศพอดี ก็เลยปิดปากเรื่องนี้ ไม่พูด แล้วก็ได้มาพูดอีกครั้งตอนที่จางแจยองเอาเค้กวันเกิดมาให้ จางแจยองบอกว่าจะไม่ไปต่างประเทศแล้ว แต่ทางฝั่งของชูซังอูก็รู้สึกว่าถ้าจะทิ้งอนาคตไม่ไปเพราะเขาก็ใช่เรื่อง สุดท้ายก็เลยปฏิเสธเรื่องทดลองคบกัน (ทั้ง ๆ ที่ตอนแรกตั้งใจแล้วว่าจะตอบตกลง) โอ้… ก็คือแบบ… จุกอยู่นะ
นี่อาจจะเป็นเพียงสิ่งน้อยนิดและเก็บรายละเอียดยังไม่ครบสำหรับสิ่งที่เราเขียนออกมา เรากำลังคิดว่าจะกลับไปดูอีกเป็นครั้งที่ 2 แต่ก็ขอพูดอีกครั้งว่าเป็นละครที่ดีจริง ๆ มันทั้งสุข เศร้า อ่อนโยน เจ็บปวด และหลากหลายอารมณ์ อีกอย่าง อยากให้สังเกตสีของฉากมาก ๆ เรารู้สึกว่าสีในฉากมันมีความหมายของมันจริง ๆ
หากท่านใดสนใจอยากจะลองไปติดตามชม สามารถดูได้ที่ GagaOOLala Application (ดูได้เฉพาะ VIP) นอกจากนั้นยังมีแบบนิยายที่ Fictionlog และแบบการ์ตูนที่ Comico
เอาล่ะ ขอบคุณทุกท่านที่อ่านมาจนถึงตอนท้ายนี้ นี่น่าจะเป็น Blog ที่ยาวที่สุดเท่าที่กระทรวงเคยโพสมา สามารถแสดงความคิดเห็นได้ แต่ขอให้แสดงความคิดเห็นอย่างสุภาพ
ไว้ครั้งหน้าเราจะมารีวิวอะไรอีกนั้น รบกวนติดตามกันด้วยนะคะ
ขอให้มีความสุขกับละครที่ท่านรัก
- ทิ้งท้าย
ขอบคุณ Follower ทุกท่านที่แนะนำช่องทางการดูละครให้เรา - ขอบคุณ GagaOOLala ที่มีซับไทยสำหรับละครเรื่องนี้
ช่องทางการติดตาม Ministry of INFINITY
Website : www.miniin.net
Twitter : www.twitter.com/infinitasub
Facebook Fanpage : www.facebook.com/infinitav2
เรารักเรื่องนี้มากกกกกกเลยค่ะ อ่านตั้งแต่เป็นนิยาย ม่านฮวาก็อ่าน จนมาทำเป็นซีนี่ส์ก็ดีมากๆๆๆๆๆๆไปอีก เป็นเรื่องขึ้นหิ้งในทุกเวอร์ชั่น อยากให้คนไปดูเยอะๆ อยากให้แมสเผื่อจะได้มี SS2 ค่ะ ㅠㅡㅠ
ปล.ตอนโดนจุ๊บครั้งแรกพี่แจยองไม่ได้หลับจริงค่ะ พี่เค้าแกล้งหลับเพราะคิดว่าน้องจะแอบมาเขียนหน้า (เหมือนที่เคยทำมาแล้ว) แต่ดันแจ็กพ็อตแตก 55555 นั่นแหละค่ะ
เราว่าซีรี่ส์เขาทำมาอย่างตั้งใจ ทุกอย่างมีที่มามีคำตอบอยู่รอบๆหมดเลย คนไม่อ่านนิยายมาดูก็ไม่งง ส่วนคนที่อ่านนิยายแล้วมาดูก็ปลื้มมาก ถ้าว่างๆลองอ่านนิยายดูนะคะ มันสนุกมากกกกกกกกจริงๆ