■ ความประทับใจ “คาวานิชิ ทาคุมิ JO1”, “ฟูจิโอกะ มาอิโตะ” และ “ซากุราดะ โดริ” ที่ร่วมแสดงละครเรื่อง “หนุ่มหล่อสุดเปิ่น” ด้วยกัน
– ผมเห็นผลงานต่าง ๆ ของพวกเขามาตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วครับ ตอนที่ดูพวกเขาผ่านรูปภาพนั้นทั้ง 3 คนมีภาพลักษณ์ที่คูล ทำให้ผมคิดไปว่า “น่าจะเข้าถึงได้ยากนะเนี่ย” แต่ว่าพอได้ลองเจอกันจริง ๆ บอกเลยว่ามันไม่ใช่อย่างที่คิดสักนิด ลืมของบ่อยพอ ๆ กันกับผม ทุกคนเปิ่นหนักมากครับ (หัวเราะ) โดยเฉพาะตอนที่หัวเราะนั้นเข้ากันได้ดีมาก ทำให้เกิดบรรยากาศดี ๆ ครับ บรรยากาศในกองถ่ายนุ่มนิ่มจนทำให้คิดว่า “นุ่มนิ่มขนาดนี้จะดีเหรอเนี่ย?”
■ ดูจากสีหน้าแล้วเรียกได้ว่าความเป็นกันเองของกองถ่ายถ่ายทอดมาถึงทางนี้เลยทีเดียว… เรียกได้ว่าการแสดงครั้งนี้ให้ความรู้สึกแตกต่างไปจาก “HiGH&LOW THE WORST X” ที่มีฉากตื่นตาตื่นใจเยอะใช่มั้ย?
– ใน “HiGH&LOW THE WORST X” จะมีฉากอันตราย ๆ อย่างการต่อตี, เอาจริงเอาจัง ไม่ว่ายังไงก็ยังรู้สึกตื่นเต้นใช่มั้ยล่ะครับ แต่สำหรับเนื้อหาในละครครั้งนี้นั้นจะให้อารมณ์แบบสบาย ๆ เบาสมองครับ
■ ยูตะเป็นคนที่มีความสามารถด้านการสื่อสารสูง และได้รับความรักจากทุกคน พอจะช่วยบอกวิธีลดระยะห่างในการเจอกันครั้งแรกหน่อยได้มั้ย?
– เคล็ดลับของการลดระยะห่างก็น่าจะเป็นไม่ทำเป็นเก๊กแล้วก็เป็นธรรมชาติล่ะมั้งครับ สำหรับผมถ้ามีใครที่ผมเจอแล้วแล้วรู้สึกว่าอยากจะสนิทกับเขา ผมก็จะเข้าไปคุยสบาย ๆ อย่างที่เราคุยกันอยู่ตอนนี้… แม้แต่ในกองถ่ายละคร “หนุ่มหล่อสุดเปิ่น” ก็เช่นกันครับ พวกเราไปกินข้าวกันพร้อมหน้าตั้งแต่วันที่ 3 ของการถ่ายทำ แต่ผมว่าการที่เราลดระยะห่างระหว่างกันได้เร็วขนาดนี้ ส่วนหนึ่งก็น่าจะเป็นเพราะว่านักแสดงที่แสดงด้วยกันก็สนใจในตัวผมเช่นกัน พวกเราต่างสนใจกันและกันก็เลยลดระยะห่างได้เร็ว พูดตรง ๆ ผมเป็นคนที่ค่อนข้างเข้ากับคนยากนะครับ จากก้นบึ้งเลยคือเป็นคนที่อยากจะอยู่คนเดียว แต่ว่า…เอาจริงกจากนี้ก็อยากจะให้ความสำคัญกับช่วงเวลาที่ได้อยู่คนเดียวเช่นกัน แต่ในอีกด้าน ช่วงนี้ก็รู้สึกว่าอยากจะเปลี่ยนแปลงเช่นกันครับ เพราะว่าผมเองก็โตแล้วด้วย พอจะดูออกว่าอีกฝ่ายเป็นคนยังไง และเพราะสามารถเชื่อมั่นในตัวเองได้แล้ว ถ้าตัวเองสัมผัสได้ว่านี่เป็นคนดี ผมเองก็อยากจะผูกสัมพันธ์ด้วย
■ ในตอนที่จิตตกหรือในตอนที่อารมณ์ไม่เอื้ออำนวย มีวิธีสร้างกำลังใจให้ตัวเองอย่างไร?
– ฟังเพลงครับ แต่ว่า “การไม่ฝืน” ก็อาจจะเป็นอีกวิธีหนึ่ง ไม่ใช่ว่าปล่อยให้กริยาท่าทางเป็นไปตามอารมณ์ความรู้สึกนะครับ แต่มันคือการกระทำในแบบฉบับเท่าที่อารมณ์ตอนนั้นจะพาไปโดยที่ไม่ฝืนครับ
■ ดูท่าว่าคุณก็น่าจะเคยมีช่วงที่องค์ “ความเป็นผู้ชาย” ลง ในความเป็นลูกผู้ชายแล้ว ยูตะซังคิดว่าอย่างไร?
– ผมไม่ได้มีคำจำกัดความอะไรเป็นพิเศษอย่างเช่น “ความเป็นลูกผู้ชายที่ผมคิดก็คือแบบนี้ครับ” หรอกนะครับ แต่ผมคิดว่า “ผู้ชายที่สามารถเอ่ยทักเราในช่วงจังหวะที่เรารู้สึกทรมานหรือในตอนที่เราก้าวไปข้างหน้าไม่ไหว” นั้นเท่เอามาก ๆ ครับ พอเราคิดว่าเอาล่ะ จะทำแล้วนะ แต่พอทำจริงมันยากใช่มั้ยล่ะครับ โดยปกติแล้วก็จะหวาดกลัวอยู่หน่อยล่ะว่า “ถ้าบรรยากาศแบบนี้ก็ต้องพูดอย่างนี้…” แต่ถ้ามีใครสักคน จะคนเดียวก็ตามที่สามารถทักเราได้ ผมเชื่อว่าบรรยากาศในสถานที่ตรงนั้นจะเปลี่ยนไปแน่นอน ก็เลยมองว่าคนที่สามารถทำได้แบบนั้นคือคนที่เท่มาก
■ เรื่องที่ชวนให้ใจเต้นช่วงนี้?
– (นิ่งคิดสักพัก) ช่วงนี้ไม่ค่อยมีอะไรให้ใจเต้นเลยแฮะ… อยากใจเต้นอะ! ช่วยทำให้ผมใจเต้นด้วยเถอะครับ (หัวเราะ)
■ ตอนเด็กเป็นเด็กแบบไหน?
– ออกไปเล่นข้างนอกตลอดเวลา… ตอนที่ยังเด็กแน่นอนว่าโลกเรายังแคบครับ ก็จะไปเล่นใกล้บ้าน เล่นกับเด็กกลุ่มเดิม ๆ แล้วก็สภาพเหนอะหนะ (เพราะไปเล่นโคลน) เข้าไปในตรอกซอกซอยที่บ้านแล้วก็เล่นซ่อนหา เล่นสมมติเป็นยักษ์บ้าง
■ อาชีพที่หลงใหลตอนเด็ก
– เริ่มแรกคืออยากเป็น “อุลตร้าแมน” จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นนักฟุตบอล มาตระหนักว่าอยากจะเป็นนักร้องก็ตอนอยู่มัธยมต้น เพราะตอนนั้นได้ไปคาราโอเกะกับเพื่อน ก็เลยเริ่มมีความสนใจว่าวงการบันเทิงนี่ดีจัง
■ อิมเมจผู้ใหญ่ที่ตัวเองคิดว่าไว้ตอนเด็กนั้นคิดว่าตัวเองในตอนนี้เข้าใกล้แล้วหรือยัง?
– คนละทางเลยครับ ปีนี้ผมก็จะอายุ 28 แล้วแต่ตอนที่ตัวเองเป็นเด็กคนที่อายุใกล้เคียง 30 ไม่ว่าจะมากกว่าหรือน้อยกว่าต่างก็ดูเป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ แต่ผมกลับรู้สึกว่ายิ่งกาลเวลาผ่านไปก็ยิ่งไม่ค่อยอะไรมากมายกับอายุที่เพิ่มมากขึ้น เพราะก็มีบางคนที่เขามองโลกออกตั้งแต่ช่วงอายุเลข 10 ผมมองว่าอายุไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลย แต่ว่าผมมองว่าในความเป็นตัวเองของผมนั้นก็มีส่วนที่เป็นเด็กอยู่ พูดในแง่ดีนะครับ ซึ่งผมก็ไม่อยากให้มันเปลี่ยนไปเลย
■ เรามักจะเห็นอิมเมจเริสหรูของยูตะซัง แต่ถ้าในแง่ของประสานงานแล้ว เป็นคนที่ “ตัดสินใจล่วงหน้า หรือ ไปตัดสินใจเอาวันจริง”
– น่าจะเป็นพวกตัดสินใจล่วงหน้านะครับ แต่เวลาตื่นนอนปกติเราก็จะ “อันนี้ แล้วก็ อันนี้!” แต่ว่าถ้าเป็นวันที่สำคัญมาก ๆ ต้องออกไปเจอผู้คนด้วยชุดไพรเวทแล้วล่ะก็จะตัดสินใจไว้ล่วงหน้าครับ
■ กระเป๋าล่ะ “ประเภทเปลี่ยนทุกวัน หรือ ประเภทในกระเป๋าอันเดิม ๆ”
– นาน ๆ ทีก็มีเปลี่ยนบ้างตามอารมณ์ แต่โดยพื้นฐานแล้วเป็นคนประเภทใช้กระเป๋าใบเดิม ๆ ครับ แต่เหนือสิ่งอื่นใดถ้าเป็นพวกตุ้มหูหรือเครื่องประดับก็จะเปลี่ยนบ่อยเลยครับ
■ สิ่งที่ยังไงก็ต้องมีอยู่ในกระเป๋า
– น้ำหอมกับเซ็ตแปรงสีฟันแล้วก็วิตามิน!
■ ถ้าต้องอยู่กับสมาชิกวง NCT “ไปแกลมปิ้งสบาย ๆ หรือ สนุกสนานไปกับงานกีฬาครั้งใหญ่”
– ถ้ามาคำถามนี้ยังไงก็ค้องแกลมปิ้ง! เพราะผมไม่อยากเล่นกีฬาครับ (หัวเราะ) อยากพักผ่อนสบาย ๆ กับทุกคน
■ ถ้าพาสมาชิก NCT127 มาเที่ยวญี่ปุ่นล่ะก็ “เกียวโต หรือ ซัปโปโร”
– น่าจะเกียวโตครับ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิถ้าไปที่อาราชิยามะแล้วล่ะก็จะเห็นดอกซากุระบานเต็มไปหมด แถมยังมีเรียวกังด้วย นอกจากนั้นผมยังสามารถแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นได้ เพราะสถานที่ที่ผมชอบมากเลยครับ เพราะงั้นก็เลยอยากจะแนะนำให้สมาชิก
■ ฤดูที่ชอบ “ใบไม้ผลิ, หน้าร้อน, ใบไม้ร่วง, หน้าหนาว”
– ฤดูใบไม้ผลิ…ผมชอบฤดูของซากุระที่สุดแล้ว อีกอย่างฤดูที่เราจะเห็นวิวของอาราชิยามะที่ผมชื่นชอบได้สวยงามที่สุดก็คือฤดูใบไม้ผลินี่แหละครับ
■ ช่วงเวลาอาบน้ำ “ฝักบัว หรือ อ่างโอฟุโระ”
– โอฟุโระครับ ความจริงแล้วอยากแช่ตัวลงอ่างที่สุดแล้ว แต่ที่ต่างประเทศไม่ได้มีวัฒนธรรมแช่น้ำ เพราะงั้นตอนที่กลับมาญี่ปุ่นถ้าวันไหนมีเวลาเป็นต้องลงแช่น้ำครับ อีกอย่าง เมื่อวานเพิ่งแช่น้ำมานะ! (ใบหน้ายิ้มแย้ม)
■ มีอะไรที่แบบ “ซื้อจากร้านสะดวกซื้อมาจนได้” มั้ย?
– มีเยอะเลยครับ! (ตาเป็นประกาย) กำหนดไลน์อัพมาเลยก็จะ มิตาระชิดังโงะ, เมจิ โปรไบโอติก โยเกิร์ต R-1 ชนิดชงดื่ม น้ำตาลน้อย/แคลอรีต่ำ, เนงิโทโระมากิ, บูตะชิรุ, กาแฟ ยังไงของ 5 อย่างนี้ก็ต้องซื้อครับ
■ หน้าจอโทรศัพท์มือถือเซ็ตเป็นแบบไหนอยู่เหรอ?
– ภาพท้องฟ้าที่น้องสาวส่งมาให้ เมฆมันเป็นรูปหัวใจ น่ารักแล้วก็ช่วยเยียวยาครับ มันให้ความรู้สึกโรแมนติคนะครับว่ามั้ย?
■ อิโมจิหรือสติ๊กเกอร์ที่ใช้บ่อย
– ช่วงนี้ชอบอาเนียร์จาก “SPY X FAMILY” สติ๊กเกอร์ก็ใช้บ่อยเลยครับ
■ ทรงผมที่อยากทำหลังจากนี้
– อยากลองทำ “Berry Short” ครับ แต่ว่า…ถ้าทำผมทรง “Berry Short” แล้วก็อยากปล่อยหนวดครับ เพราะงั้นอาจจะไม่ใช่ตอนนี้ก็ได้ ช่วงอายุ 30 กลาง ๆ อยากจะลองสักครั้ง
■ เมนูฝีมือแม่ที่ชอบ
– เรื่องนี้ถ้าไม่อธิบายไม่มีทางเข้าใจแน่ ๆ ที่บ้านนากาโมโตะจะมีเมนูที่ชื่อว่า “อาหารที่คุณน้าไดกิสอน” ล่ะครับ ผมเกิดที่เมืองคะโดมะ โอซาก้า เพื่อนบ้านก็จะรู้จักทุกคนแล้วก็จะทำอาหารมาแบ่งกันครับ ซึ่งตอนนั้น ผัดผักที่แม่ทำซึ่งคุณน้าไดกิ (แม่ของไดกิคุง) เป็นคนสอนอร่อยมากครับ! วัตถุดิบก็จะมีเนื้อหมู, กุยช่าย, ถั่วงอก ใส่รวมกันเยอะ ๆ ใส่พอนสึซอสแล้วก็พริกป่นแล้วก็กินครับ พอถามแม่ว่า “ข้าววันนี้เป็นอะไรเหรอครับ?” แล้วแม่ตอบกลับมาว่า “เมนูที่คุณน้าไดกิสอนน่ะ” ผมจะดีใจมากเลย
■ แล้วยูตะซังสามารถทำเมนูนั้นได้มั้ย?
– อ่า มันเป็นเมนูที่ใครก็สามารถทำได้ครับ (หัวเราะ)… ชื่อเมนูอาจจะยาว แต่มันอร่อยจริง ๆ
■ ถ้าชมแล้วจะดำใจ “เท่อะ หรือ ใจดีจัง”
– เท่แล้วก็ยังใจดี! (ตอบด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเป็นพิเศษ แต่ที่จะดีใจที่สุดเลยก็คือ “เป็นคนที่มีความสามารถสุด ๆ!” ครับ
■ ถ้าจะให้รางวัลตัวเองที่พยายามทุกวันล่ะ?
– ของรางวัลไม่จำเป็นครับ (ตอบอย่างรวดเร็ว)… อาจจะไปคิดเอาตอนที่ผ่านพ้นปี 2023… แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ต้องการอะไรครับ
แปลและเรียบเรียงโดย : Ministry of INFINITY
ที่มา :
・Oggi6月号でクールドジなビジネスマンを熱演!NCT 127・中本悠太が愛される理由!